วันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

รถโบราณ








เสียดายภาพม่ายชัด

วันพุธที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ นวัตกรรมแห่งอนาคตที่สัมผัสได้ - สุดสัปดาห์ ยานยล

พบกับ อ้วนซ่าแอบซิ่ง อีกเช่นเคยทุกวันอาทิตย์กับสาระของโลกแห่งยนตรกรรม เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาอ้วนซ่าฯ ได้มีโอกาสร่วมทดลองนวัตกรรมเพื่อชีวิตที่ปลอดภัยและสะดวกสบายในการขับขี่ ของฟอร์ดรุ่น “โฟกัส” ใหม่ ที่ทางบริษัท ฟอร์ด ได้จัดสาธิตขึ้น ซึ่งฟอร์ดโฟกัสใหม่นี้นอกจากมีรูปทรงสวยบาดใจ ทั้งภายนอกและภายในแล้ว ยังมาพร้อมเครื่องยนต์และระบบถ่ายทอดกำลังนับว่าแจ่มแจ๋วที่สุด ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร 170 แรงม้า มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติแบบ 6 จังหวะ คลัตช์คู่ และช่วงล่างจากที่เคยสัมผัสกับโฟกัสรุ่นก่อนนี้ต้องบอกว่าประทับใจในความ แน่นหนึบเพราะแม้ว่า ฟอร์ดจะเป็นบริษัทจากอเมริกา แต่การคิดค้นและวิจัยรถรุ่นโฟกัสนั้นทำขึ้นในยุโรป ดังนั้นการขับขี่จึงปรับแต่งขึ้นเพื่อให้ตอบสนองสไตล์การขับขี่ของชาวยุโรป เป็นพิเศษ ด้วยความลงตัวด้านรูปลักษณ์และสมรรถนะ จัดว่าไร้คู่แข่งในระดับราคา 1 ล้านบาท



คลิกชมภาพและอ่านต่อที่นี่...

บีเอ็มดับเบิลยู 320 ดี สปอร์ตไลน์ สวยแสบสไตล์สปอร์ต


การทำงานของระบบช่วงล่างให้ความรู้สึกนิ่มนวลกว่ารุ่นที่แล้ว แต่รวม ๆ แล้วยังมั่นคงมีการทรงที่ตัวดีทั้งทางตรงและทางโค้งเช่นเดิม พวงมาลัยแบบไฟฟ้ามีน้ำหนักเบาลง การควบคุมพวงมาลัยง่ายขึ้นและแม่นยำดี ส่วนการทำงานของเบรกในช่วงความเร็วปกติ รถมีอาการโยกหน้าโยกหลังจนน่ารำคาญทุกครั้งที่รถหยุด เมื่อลองเหยียบเบรกกะทันหันสามารถหยุดรถได้ในระยะทางที่ปลอดภัย และยังควบคุมทิศทางเพื่อเลี้ยวหลบสิ่งกีดขวางได้ตามต้องการ สนนราคาค่าตัวของซีรีส์สามใหม่ทั้ง 3 รุ่นนั้นอยู่ที่ 2.899 ล้านบาทเท่ากันหมด แต่ถ้าซื้อแล้วคุ้มสุดก็น่าจะเป็นรุ่นสปอร์ตไลน์ เพราะมีการตกแต่งทั้งภายนอกและภายในที่ดูเท่ แถมระบบเกียร์ก็มีโหมดการใช้งานที่เหนือชั้นกว่ารุ่นโมเดิร์นไลน์และลักชัว รี่ไลน์.
มิติ (ยาว/กว้าง/สูง)4,624/1,811/1,429 มม.

เครื่องยนต์    ดีเซล 4 สูบ เทอร์โบ DOHC 16 วาล์ว
 
ความจุกระบอกสูบ 1,995 ซีซี

กำลังสูงสุด 184 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาทีี

แรงบิดสูงสุด 380 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-2,750 รอบ/นาที 
เกียร์ อัตโนมัติ 8 สปีด

ราคา  2,899,000 บาท


สมฤกษ์ รื่นสัมฤทธิ์


คลิกชมภาพและอ่านต่อที่นี่....

ฮุนได เอลันตร้า ใหม่ สวย สปอร์ต โฉบเฉี่ยว


ฮุนได เอลันตร้า รถสัญชาติเกาหลี แต่ได้รับรางวัลรถยอดเยี่ยม 2012 จากอเมริกา คาร์ ออฟ เดอะเยียร์ ที่สุดของทวีปอเมริกาเหนือ ดังนั้นทางฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จึงนำ เอลันตร้าใหม่ มาให้ทดสอบถึงความสดใหม่ รถเก๋งสไตล์สปอร์ตคันนี้จะจี๊ดจ๊าดเร้าใจเพียงใด จากรูปลักษณ์ภายนอกที่เห็นเป็นรถแนวสปอร์ต โดยได้รับการดีไซน์ให้แนวหลังคาลาดต่ำ ฐานล้อกว้างขึ้น รูปทรงสปอร์ตคูเป้ เพิ่มสมรรถนะการทรงตัว


ภายในการตกแต่งสไตล์สปอร์ต แผงคอนโซลด้านหน้าแบบวาย-เชฟ พร้อมหน้าปัดเรืองแสงสามารถบอกข้อมูลระยะทาง อัตราสิ้นเปลือง และคำนวณเชื้อเพลิงได้ พวงมาลัยสปอร์ต 4 ก้านพร้อมระบบมัลติฟังก์ชัน มีช่องเสียบเอยูเอ็กซ์ ยูเอสบี สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์พกพาต่าง ๆ


เครื่องยนต์บล็อกใหม่ล่าสุดรหัส เอ็นยู เอ็นจิน 1.8 ลิตร แบบ 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 178 นิวตัน-เมตร ที่ 4,700 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ขับเคลื่อนวาล์วด้วยโซ่แบบลดเสียงที่ทนทาน ตัวเครื่องยนต์แข็งแกร่งมีน้ำหนักเบา ใช้โครงสร้างอะลูมิเนียมและอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีทันสมัยช่วยรีดเอา ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร โดยมีค่าตัว 1.198 ล้านบาท


รถที่ได้ทดสอบคือ เอลันตร้า รุ่นจี เป็นรุ่นท็อปของตระกูลเอลันตร้า และกว่าจะเบียดเสียดการจราจรที่แออัดช่วงถนนสีลมไปขึ้นทางด่วนช่วงพระราม 4 ไปจังหวัดจันทบุรี ได้ใช้เวลาพอสมควร แต่เมื่อขึ้นไปใช้ชีวิตบนทางด่วนเหมือนติดปีก เครื่องยนต์ 1,800 ซีซี แรงนุ่มนวล เมื่อกดเร่งความเร็วขึ้นไปแทบไม่รู้สึก หรือช่วงเร่งแซงพบว่าพวงมาลัยตอบสนองได้ดั่งใจ เมื่อเจอเส้นทางขรุขระ ระบบช่วงล่างอาจจะดิบไปนิดไม่นุ่มนวลนัก หากชอบความนุ่มนวลอาจจะขัดใจบ้างเท่านั้น ทว่าทางฮุนไดได้บอกแต่แรกแล้วว่าเน้นสปอร์ตไม่ได้เน้นความประหยัดนัก เพราะเอลันตร้ากินน้ำมันเฉลี่ย 11-13 กม./ลิตร


ส่วนภายในตัวรถออกแบบได้สวยโฉบเฉี่ยว อุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือต่าง ๆ เลือกหยิบจับใช้สอยได้สะดวกมือ นั่งสบาย ที่นั่งผู้โดยสารแคบไปนิด แต่ไม่ถึงกับอึดอัด ที่แปลกไปหน่อยคือ บานกระจกประตูหลังเล็ก ผู้โดยสารที่ชอบมองวิวทิวทัศน์อาจไม่คุ้นแคย แต่สนนราคาที่เคาะไว้เกินล้านบาท หลายคนอาจใช้เวลาตัดสินใจ ถ้าชอบรถสไตล์เกาหลีเชื่อว่า ฮุนได เอลันตร้าใหม่ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกหนึ่ง.


เนตรนภางค์ บุญนายืน


คลิกชมภาพต่อที่นี่.....

เบนซ์ของ ใบเตย อาร์สยาม - พาหนะคู่ใจ

สุธีวัน ทวีสิน หรือ ใบเตย นักร้องลูกทุ่งสาวสุดเซ็กซี่แห่งค่ายอาร์สยามเจ้าของเพลง “เช็คเรทติ้ง” บอกว่า ด้วยหน้าที่การงานต้องเดินทางตลอดเวลา ส่วนใหญ่ใช้บริการรถตู้จากค่ายคอยรับคอยส่ง แต่ถ้าไม่ไกลนักจะขับรถ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี 180 สีขาว ที่ใช้มา 1 ปีเป็นรถคู่ใจ เนื่องจากรุ่นซี 180 ขนาดกำลังดีและมีระบบความปลอดภัย และตอบโจทย์ให้ใบเตยพอดี

“หมอดูแนะนำว่า เบนซ์มีสัญลักษณ์เป็นดาว หากใช้รถแบรนด์นี้ยิ่งเสริมให้โด่งดังมั่งคั่ง แล้วยังเหมาะกับอาชีพของใบเตย เมื่อฟังเหตุผลทุกคนในบ้านเห็นดีด้วย ส่วนสีขาวเป็นสีที่ชอบเพราะดูสวยทั้งกลางวันและกลางคืน ยกเว้นติดฟิล์มดำเผื่อเอาไว้แต่งหน้าเปลี่ยนเสื้อผ้าในรถก่อนขึ้นเวที คอนเสิร์ตเท่านั้น”

เจ้าของเพลงเช็คเรทติ้ง บอกว่า จริง ๆ มองรถเบนซ์ไว้หลายรุ่น แต่ที่เลือกรุ่นซีคลาส เพราะพี่ชายซึ่งเป็นเจ้าของศูนย์ฯที่หาดใหญ่แนะนำให้ซื้อรุ่นนี้เพราะออกมา ล่าสุด มีสมรรถนะดี ประหยัดน้ำมัน มีซันรูฟให้ความรู้สึกโปร่ง นั่งได้ 4 คน ใส่ชุดแต่งของเอเอ็มจีทั้งคัน เปลี่ยนเบาะให้เป็นสีแดง มีเนวิเกเตอร์ ที่สำคัญมีเทอร์โบช่วยเพิ่มความเร็วได้ด้วย

“ชอบขับรถเร็วจนคนรอบข้างเป็นห่วง ส่วนมากไม่ค่อยมีใครกล้านั่งด้วย แต่ถ้าขับให้เพื่อนนั่งก็ดีเพราะไม่มีใครกล้าหลับ ใบเตยบอกเพื่อนเสมอว่าขอให้ศรัทธาในตัวคนขับ นั่งแล้วปลอดภัยที่สำคัญต้องคาดเข็มขัดด้วย ยกตัวอย่างตอนเรียนขับรถได้เพียงครึ่งชั่วโมง ก็พาครูเที่ยวที่ยูเนี่ยนมอลล์แล้ว ครูชมว่าเก่ง หลังจากนั้นใบเตยไม่เคยไปเรียนอีกเลย”

ใบเตย บอกว่า เวลาขับรถจะมีสมาธิดี ได้อยู่กับตัวเองมากขึ้น ชอบฟังเพลงเสียงดัง ๆ ซึ่งรถรุ่นนี้มีความบันเทิงให้พร้อมทั้งช่องเสียบยูเอสบี ใส่แผ่นซีดี 6 แผ่น เชื่อมต่อกับไอโฟนก็ได้ ดังนั้นรถในความหมายก็เหมือนกับคู่ชีวิตที่พาเราไปทุกที่ที่อยากไป ไม่ว่าไปทำงาน ไปหาครอบครัว ไปหาคนที่เรารัก รวมทั้งเป็นที่พักผ่อนทางจิตใจด้วย เพราะถ้าเหนื่อยมาจากการงาน แต่พอได้ขึ้นรถก็รู้สึกว่าได้พักและมีเวลาเป็นส่วนตัว.


ขอบคุณ นสพ เดลินิวส์

ทริปเล็ก ๆ ให้ทดลองขับวอลโว่ เอส80ที4 รถหรู


บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) ได้จัดทริปเล็ก ๆ ให้ทดลองขับวอลโว่ เอส80ที4 รถหรูที่ตั้งใจเจาะตรงถึงผู้ใช้กลุ่มผู้บริหารรุ่นใหม่ไฟแรง วอลโว่ เอส80 ที4 เป็นรถซีดาน


หรู 4 ประตูขนาดใหญ่ที่ออกแบบให้รู้สึกได้ถึงความสง่างาม ไฟหน้าไบซีนอนแบบแอคทีฟ เบนดิ้ง ส่องสว่างได้มากกว่าและไกลกว่า
สามารถปรับองศาการส่องสว่างตามความโค้งของถนน ไฟท้ายเป็นเอกลักษณ์ของวอลโว่คิ้วโครเมี่ยมรอบคัน ล้ออะลูมิเนียมขนาด 18 นิ้วภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบให้ดูโอ่อ่า บุหนังแท้ที่แผงประตู และที่นั่งตกแต่งขอบและปุ่มกดด้วยโครเมี่ยมแผงคอนโซลหน้าดีไซน์ทันสมัย


 และหัวเกียร์หุ้มหนังสีเบจตกแต่งด้วยลายไม้ ยังมีระบบวอลโว่ เซ็นซัส ช่วยสั่งการเพียงใช้ปลายนิ้วผ่านปุ่มบังคับที่พวงมาลัยแสดงผลผ่านหน้าจอสี ขนาด 7 นิ้ว ขณะเดียวกันช่วยให้ผู้ขับขี่ใช้ฟังก์ชันการควบคุมรถ และระบบความปลอดภัยต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น เพียงกดปุ่มมาย คาร์ ก็สามารถควบคุมการทำงานของระบบต่าง ๆ ทั้งระบบไฟหน้ารถ กระจกมองข้าง ระบบปรับอากาศ ระบบเซ็นทรัลล็อก และระบบป้องกันการชนขณะขับขี่ความเร็วต่ำด้วย


ส่วนเครื่องยนต์วอลโว่ เอส80 ที4 ขนาด 2,000 ซีซี เบนซินเทอร์โบไดเร็คอินเจ็คชัน (จีทีดีไอ) สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 8.5 วินาที เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาตรฐานยูโร 5 เกียร์เพาเวอร์ชิฟท์อัตโนมัติ 6 สปีด


ส่วนความปลอดภัยจัดมาเต็มรูปแบบมาตรฐานวอลโว่ ทั้งระบบป้องกันการชนขณะขับขี่ความเร็วต่ำ ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันพร้อมการหยุดหรือออกตัวรถอัตโนมัติ แจ้งเตือนผู้ขับขี่รักษาระยะห่างจากรถคันหน้าในทุกระดับความเร็ว ระบบตรวจจับคนเดินบนถนน พร้อมเบรกแบบเต็มแรงเบรก ระบบแจ้งเตือนเมื่อขับขี่ออกนอกช่องทางเดินรถ ระบบแจ้งเตือนเมื่อผู้ขับขี่ขาดสมาธิ ระบบกล้องและสัญญาณ


แจ้งเตือนเมื่อมียานพาหนะในมุมอับสายตา
ก่อนจะก้าวขึ้นรถได้ชมโฉมภายนอกวอลโว่ เอส80 ที4 เป็นรถหรู 4 ประตูที่ดูใหญ่โต หรูหรา การออกแบบก็ยังคงเป็นเอกลักษณ์ของวอลโว่ ความสปอร์ตยังไม่เผยโฉมอย่างเด่นชัด แต่พอได้ออกไปโลดแล่นบนท้องถนนเท่านั้น การออกตัวทำได้ดีเทียบเท่าด้วยเครื่องยนต์ขนาด 2,000 ซีซี เทอร์โบ เปลี่ยนเกียร์ขณะเร่งแซงเทียบไม่มีความรู้สึกสะดุด เมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงไม่มีอาการให้เห็น แต่ช่วงล่างต้องพิจารณากันเล็กน้อย เพราะไม่นุ่มนวลมากอย่างที่คาดหวัง จากที่วอลโว่ได้แนะนำรถคันนี้ไว้ว่า ตั้งใจเจาะกลุ่มผู้บริหาร ถ้าจะให้ดีผู้บริหารต้องขับรถคันนี้เองถึงจะเร้าใจ ส่วนอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 12 กม./ลิตร


ส่วนระบบความปลอดภัยที่ใส่เข้ามาในตัวรถที่ได้สัมผัสจริงและบ่อยครั้งบน เส้นทาง คือ การเตือนเมื่อเปลี่ยนเลนแบบกะทันหัน รวมไปถึงระบบกล้องและสัญญาณเตือนเมื่อมีรถเข้ามาใกล้ในมุมอับที่มองไม่เห็น ซึ่งถือว่าช่วยให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้น แต่ที่ต้องยกนิ้วให้คือ ระบบเครื่องเสียงของเขาแจ๋วจริง ที่ติดตั้งให้เป็นเครื่องเสียงพรีเมี่ยม กำลังขับ 5X130 วัตต์ พร้อมลำโพง 12 ตัว ได้อรรถรสของความบันเทิงเต็มรูปแบบ ด้วยข้อมูลที่แจ้งเบื้องต้นจ่ายเพียง 2.84 ล้านบาท แล้วได้วอลโว่ เอส80 ที4 คันนี้มาครองดูจะคุ้มค่าทีเดียว.
มิติ (ยาว/กว้าง/สูง) 4,851/2,106/1,493 มม.

เครื่องยนต์       เบนซิน เทอร์โบ 4 สูบ 16 วาล์ว   
ความจุกระบอกสูบ 1,999 ซีซี

กำลังสูงสุด 203 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที

แรงบิดสูงสุด 300 นิวตัน-เมตร ที่ 1,750-4,000 รอบ/นาทีีระบบขับเคลื่อน ล้อหน้า

เกียร์ อัตโนมัติ 6 สปีด

ราคา  2,840,000 บาท
เนตรนภางค์ บุญนายืน


คลิกชมภาพต่อที่นี่.......

วันเสาร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เรโนลต์ อัลไพน์ เอ 110-50 ตัวแรงจากแดนน้ำหอม - สุดสัปดาห์ ยานยล

พบกันวันอาทิตย์อีกครั้งกับ อ้วนซ่าแอบซิ่ง คนเดิมกับเรื่องราวของรถใหม่จากทุกมุมโลกนะขอรับ ในอาทิตย์นี้กองบรรณาธิการแจ้งมาว่าขอให้ช่วยนำเสนอเรื่องราวของรถแรงซะ หน่อย ซึ่งพอกล่าวถึงรถแรงท่านผู้อ่านคงจะนึกได้เลยว่าไม่แคล้วคงจะมาจาก แดนมะกะโรนี (ที่เพิ่งชวดแชมป์ฟุตบอลยูโรไปหมาด ๆ) แต่น้อยคนนักจะนึกถึงรถแรงจากแดนน้ำหอม ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะส่วนใหญ่แบรนด์จากฝรั่งเศสนั้นไม่ค่อยจะทำรถแรง ส่วนใหญ่จะจำได้ในฐานะรถที่มีความพิลึกพิลั่นด้านการออกแบบที่มีบุคลิกเฉพาะ ตัว โดยเฉพาะถ้าท่านเคยใช้รถจากฝรั่งเศสในยุคก่อนปี ค.ศ.2000 คงจะจำกันได้ถึงรถที่แตรไม่ได้อยู่ที่พวงมาลัย แต่อุตริไปอยู่ตามที่ต่าง ๆ ที่ต้องค้นหากันหน่อย นัยว่าหากอยู่ใกล้มือมาก ๆ ชาวปารีเซียงคงได้กดแตรสนั่นเมืองไม่แพ้กรุงนิวเดลีเป็นแน่




คลิกชมภาพและอ่านต่อที่นี่....

ปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า เอสใหม่ พิสูจน์สมรรถนะเจ้าชายกบรุ่นที่ 7


ปอร์เช่ 911 รถสปอร์ตสายเลือดเยอรมันสุดคลาสสิกอีกรุ่นที่ผลิตออกมาจำหน่ายต่อเนื่องถึง 7 รุ่นนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1963 และสำหรับในประเทศไทยนั้น บริษัท เอเอเอส ออโต้เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการ เพิ่งจัดกิจกรรมปอร์เช่ ไดรฟ์วิง เอ็กซ์พีเรียนซ์ 2012 ให้สื่อมวลชนได้ทดลองสมรรถนะของปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า เอสใหม่ ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์
ในบรรดารถสปอร์ตระดับตำนาน ปอร์เช่ 911 ถือว่าเป็นรถที่มีการเปลี่ยนแปลงรูปทรงน้อยที่สุด โดยมีด้านหน้าเป็นจุดเด่นเพราะมีรูปทรงเหมือนกบตาโต และหลังคาที่โค้งลาดลงรับกับแนวของฝาท้าย สำหรับ 911 รุ่นที่ 7 นั้นยังรักษาเอกลักษณ์นี้เอาไว้เช่นกัน เพียงแต่ปรับรูปทรงของกันชน ไฟหน้า และไฟท้ายให้ดูโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้น ส่วนโครงสร้างตัวถังมีการนำอะลูมิเนียมมาใช้ด้วยบางส่วน ส่งผลให้น้ำหนักตัวรถลดลงกว่า 45 กก. และเพื่อให้ตัวรถมีความสมดุลตามหลักอากาศพลศาสตร์ สปอยเลอร์หลังจะขยายออกและยกตัวขึ้นเมื่อความเร็วสูงกว่า 120 กม./ชม.




คลิกชมภาพและอ่านต่อที่นี่......

เอสแอล 500 สปอร์ตโรดสเตอร์


หลังจากได้ไปทดลองขับเอสแอล-คลาส ตัวใหม่ที่ประเทศสเปนเมื่อ 3 เดือนก่อน ในที่สุดบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ได้นำเอสแอล-คลาส พวงมาลัยขวาเข้ามาเปิดตัวในบ้านเราแล้ว แถมเป็นรุ่นตกแต่งพิเศษ คือเอสแอล 500 บลูเอฟฟิเชียนซี สปอร์ต เอเอ็มจี สีเทาด้านซึ่งเป็นสีพิเศษใหม่เอสแอล-คลาสเป็นรถสปอร์ตเปิดประทุน 2 ที่นั่ง หรือโรดสเตอร์รุ่นใหญ่สุดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งตัวอักษรเอสแอลนั้นเป็นตัวย่อของคำว่า ซูเปอร์ ไลต์เวต แปลว่าน้ำหนักเบามาก

อันเป็นเอกลักษณ์การออก แบบประจำตัวมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นอกจากน้ำหนักที่เบาลงแล้วยังทำให้รถมีความปราดเปรียวเพิ่มขึ้นและลดอัตรา การสิ้นเปลืองน้ำมันลงอีกด้วย สำหรับเอสแอล 500 ใหม่มีน้ำหนัก 1,785 กก. น้อยกว่ารุ่นเดิมถึง 125 กก. ส่วน เอสแอล 350 ใหม่มีน้ำหนัก 1,685 กก. ลดลงจากรุ่นเดิมประมาณ 140 กก.


ส่วนการออกแบบรูปทรงยังคงอยู่บนพื้นฐานดั้งเดิมคือ เป็นรถสปอร์ตแบบโรดสเตอร์ที่มีกระโปรงหน้ายาว ตัวห้องโดยสารขนาดกะทัดรัดและอยู่ค่อนไปทางด้านหลัง ส่วนท้ายรถบานออกเพื่อให้ดูทรงพลังและดุดัน ที่ด้านข้างมีครีบระบายอากาศขนาดใหญ่ ชุดโคมไฟหน้าแบบไบ-ซีนอนที่มาพร้อมกับระบบส่องสว่างอัจฉริยะ โดยมีฟังก์ชั่นการ ส่องสว่างถึง 5 แบบ เพื่อปรับให้เหมาะกับลักษณะการขับขี่ในสภาพอากาศแบบต่าง ๆ และไฟเดย์ไทม์แบบแอลอีดีสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน ฝากระโปรงท้ายเปิดได้อัตโนมัติ กระจกหลังคามาพร้อมระบบปรับความโปร่งแสงของหลังคาเพียงปลายนิ้วสัมผัส และการเปิด-ปิดประทุนใช้เวลาเพียง 20 วินาที



พื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวางกว่ารุ่นเดิม เส้นสายภายในที่ตกแต่งด้วยลายไม้เชื่อมยาวจากคอนโซลกลางไปถึงแผงหน้าปัดต่อ เนื่องจนไปถึงประตู พร้อมด้วยไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารที่สามารถปรับได้ถึง 3 เฉดสีคือ สีขาว สีส้ม และสีแดง เพียงเลือกเปลี่ยนสีที่พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ช่วยเพิ่มสุนทรียภาพแห่งการขับขี่ นอกจากนั้นยังมีระบบมัลติมีเดียควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ความบันเทิง ต่าง ๆ รวมถึงการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
ขุมพลังของเอสแอล 500 ใช้เครื่องยนต์เบนซินแบบวี 8 เทอร์โบคู่ ขนาดความจุ 4,663 ซีซี


 ให้กำลังสูงสุด 435 แรงม้า มีพละกำลังมากกว่ารุ่นก่อนถึง 12% พร้อมแรงบิดที่เพิ่มขึ้น 32% จาก 530 นิวตัน-เมตรเป็น 700 นิวตัน-เมตร แต่กลับกินน้ำมันน้อยลงถึง 22% ส่วนรุ่นเล็กเอสแอล 350 นั้นใช้เครื่องเบนซินแบบวี 6 ขนาด 3,498 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 306 แรงม้า กับแรงบิดสูงสุด 370 นิวตัน-เมตร กินน้ำมันเฉลี่ย 13.3-14.7 กม./ลิตร หรือประหยัดขึ้น 30% สำหรับอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในรุ่นเอสแอล 350 อยู่ที่ 5.9 วินาทีและรุ่นเอสแอล 500 อยู่ที่ 4.6 วินาที โดยทั้ง 2 รุ่นส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ พร้อมเพิ่มความประหยัดด้วยฟังก์ชั่นระบบสตาร์ต-สต๊อปอัตโนมัติเป็นอุปกรณ์ มาตรฐาน


ในด้านความปลอดภัย เอสแอลใหม่ใช้โครงสร้างตัวถังทำจากอะลูมิเนียมเนื้อแกร่งพิเศษได้รับการออก แบบมาเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการปกป้องผู้โดยสารจากการชน โดยโครงสร้างส่วนหน้าและส่วนท้ายสามารถยุบตัวเพื่อดูดซับแรงกระแทก และในกรณีรถพลิกคว่ำ โครงเหล็กที่เสากระจกบังลมหน้ารวมไปถึงโครงคุ้มกันนิรภัยหรือโรลโอเวอร์บาร์ ที่ติดตั้งอยู่ด้านหลังเบาะนั่งทั้ง 2 จุดจะช่วยปกป้องห้องโดยสาร นอกจากนั้นภายในยนตรกรรมเอสแอลใหม่นี้ยังติดตั้งเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความ ปลอดภัยให้ผู้ขับขี่ไว้อีกมากมาย สนนราคาค่าตัวก็ลดลง โดยราคาของรุ่นเอสแอล 500 อยู่ที่ 14.499 ล้านบาท ส่วนรุ่นเอสแอล 350 ทางเมอร์เซเดส-เบนซ์ยังไม่ได้ประกาศราคา แต่คาดว่าน่าจะทราบราคาในช่วงไม่เกินปลายเดือนนี้.



สัมฤกษ์ รื่นสังฤทธิ์


คลิกชมภาพต่อที่นี่.....

"PAJERO SPORT"วี6

คอลัมน์ รถใหม่


เพลิด เพลินกับการโกยยอดรถอีโคคาร์"มิราจ" มาพักใหญ่ ตอนนี้มิตซูบิชิกลับมาจัดเต็มกับรถรุ่นอื่นๆ เสริมไลน์"ปาเจโร่ สปอร์ต" เครื่องยนต์วี 6 กับ"ไทรทัน เมกะแค็บ พลัส" เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด และเพิ่มเครื่องเบนซินในรุ่น 4 ประตู

เริ่มที่"ปาเจโร่ สปอร์ต" เพิ่มรุ่นเครื่องยนต์บิ๊กเบิ้ม 3.0 ลิตร V6 สูบ 24 วาล์ว MIVEC กำลังสูงสุด 219 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 281 นิวตัน-เมตร ระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ INVECS II พร้อม Sportronic

ภายนอกไม่แตกต่างแต่เพิ่มลูกเล่น และความคุ้มค่ามากขึ้น อาทิไฟหน้าแบบ HID พร้อมระบบปรับระดับลำแสงอัตโนมัติ ควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ตามสภาพแสงภายนอก ติดตั้งระบบน้ำฉีดล้างไฟหน้า

กระจกมองข้างแบบโครเมียมพร้อมไฟเลี้ยว คิ้วประตูหลังสีเดียวกับตัวรถและโครเมียม กล้องมองหลังขณะถอยจอด







คลิกอ่านรายละเอียดต่อที่นี่....

วันพฤหัสบดีที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เส​ธ​.​ไก่​อู​ ​กับ​แอ​ค​คอร์ด​คู่​ใจ​

​โลก​ส่วน​ตัว​ของ​ ​พัน​เอกส​รร​เส​ริ​ญ ​แก้ว​กำเนิด​ ​หรือ​ ​เส​ธ​.​ไก่​อู​ ​ผู้​อำนวย​การก​อง​ปฏิบัติ​การ​จิตวิทยา​ ​ใน​ฐานะ​โฆษก​กอง​ทัพ​บก​และ​โฆษก​ศูนย์​อำนวย​การ​แก้​ไข​สถาน​การณ์​ฉุก เฉิน​ (​ศอ​ฉ.) ​อีก​มุม​หนึ่ง​ที่​ไม่​ได้​เปิด​เผย​ที่​ไหน​มาก​่อ​นค​ือ ​โลก​ส่วน​ตัว​ที่​ผูก​พัน​กับ​รถ​ยนต์​เก๋ง​ขนาด​ใหญ่​พะ​ยี่ห้อ​ฮอนด้า ​รุ่น​แอ​ค​คอร์ด​ ​พาหนะ​คู่​ใจ​ไป​ไหน​ไป​กัน​
   
​เส​ธ​.​ไก่​อู​บอก​ว่า​ ​ตอน​ที่​รับ​ราช​การ​ ​ใหม่​ ๆ ​ใช้​รถ​ยนต์​ญี่ปุ่น​มือ​สอง​มือ​สาม​มา​ตลอด​ ​เมื่อ​มี​กำลัง​ซื้อ​รถ​ป้าย​แดง​คัน​แรก​จึง​เลือก​ ฮอนด้า ​ซี​วิ​ค ​รุ่น​ปี​ ค.ศ. 2003 ​มา​ใช้​ได้​สัก​พัก​จึง​ตัด​สิน​ใจ​ขาย​รถ​ทาง​อิน​เท​อร​์เน็ต ​แล้ว​นำ​เงิน​ที่​ได้​มาดา​วน​์​รถ​ยนต์​ ฮอนด้า    ​แอ​ค​คอร์ด​ ​เครื่อง​ยนต์​ 2.4 ​ลิตร​ i-VTEC ​รุ่น​ปี​ ค.ศ. 2009 ​ตัว​ท็​อป​ ​สี​บ​รอน​ซ์​เงิน​ ​ใช้​เป็น​พาหนะ​คู่​ใจ​มานาน​ปี​ครึ่ง​ ​รถ​ยนต์​คัน​นี้​อำนวย​ความ​สะดวก​สบาย​หลาย​อย่าง​ ​นับ​ตั้ง​แต่​ได้​ทำ​หน้าที่​โฆษก​คณะ​มนตรี​ความ​มั่น​คง​แห่ง​ชาติ​ (​คม​ช.) ​มี​ชีวิต​ใน​รถ​ยนต์​ส่วน​ใหญ่​และ​ขับ​ไป​ไหน​มา​ไหน​เสมอ​ ​ส่วน​พื้น​ที่​ใช้​สอย​ที่​กว้าง​ขวาง​ใช้​เก็บ​ของ​ทั้ง​เอกสาร​ ​กระเป๋า​ทุก​อย่าง​อยู่​ใน​รถ​คัน​นี้​หมด​
   
​ที่​เลือก​รถ​ยนต์​ยี่ห้อ​ฮอนด้า ​เส​ธ​. ​ไก่​อู​บอก​ว่า​ “​ชอบ​ยี่ห้อ​ฮอน​ด้าม​า​นาน​ ​พอ​มี​กำลัง​ผ่อน​ซื้อ​มา​เป็น​เจ้า​ของ​ ​เลือก​รถ​ยนต์​ฮอนด้า ​แอ​ค​คอร์ด​เพราะ​อยาก​ใช้​รถ​ยนต์​คัน​ใหญ่​ขึ้น​จาก​รถ​คัน​เดิม​ที่​ใช้ ​ ​ตั้ง​แต่​ซื้อ​มาก​็​ไม่​ได้​แต่ง​อะไร​ทุก​อย่าง​เดิม​ ๆ ​หมด​ ​เขา​แต่ง​มาด​ี​แล้ว​ ​ห้อง​โดย​สาร​กว้าง​ ​พื้น​ที่​ใช้​สอย​เยอะ​ดี​ ​เบาะ​หนัง​นั่ง​สบาย​ ​สมรรถนะ​ดี​ ​เวลา​ขับ​รถ​มาท​ำ​งาน​เช้า​ ๆ ​จะ​เปิด​ฟัง​ข่าว​สลับ​กับ​การ​เปิด​ซีด​ี​ฟัง​เพลง​ลูก​ทุ่ง​บ้าง​”
   
​ที่​เลือก​สี​บ​รอน​ซ์​เงิน​ ​เพราะ​ทำ​ความ​  ​สะอาด​ง่าย​ ​ส่วน​ตัว​แล้ว​ชอบ​ทำ​ความ​สะอาด​รถ​ยนต์​เอง​โดย​เฉพาะ​ใน​ช่วง​กลาง​คืน​ ​ชอบ​ให้​รถ​สะอาด​เสมอ​ ​ถึง​จะ​เป็น​รถ​ยนต์​เก่า​มือ​สอง​มือ​สาม​ก็​ดู​แล​ตลอด​ ​ปกติ​ขับ​รถ​ไม่​ลุย​ ​ขับ​ถนอม​มาก​ ​ถ้า​ขับ​ใน​กรุง​เทพ​ฯ ​ใช้​ความเร็ว​ตาม​ปกติ​ ​ถ้า​ขับ​ทาง​ไกล​ใช้​ความเร็ว​ตาม​สม​ควร​ ​รถ​ยนต์​คัน​นี้​ขับ​ไป​ไกล​ที่​สุด​กรุง​เทพ​ฯ-​ภูเก็ต​ ​ตอน​เป็น​โฆษก​คม​ช. ​มี​งาน​ด่วน​ต้อง​ขับ​รถ​จาก​ภูเก็ต​ตี​กลับ​กรุง​เทพ​ฯ ​ทั้ง​ที่​เพิ่ง​ไป​ถึง​ ​ตั้ง​ใจ​ไป​เที่ยว​ ​แต่​ต้อง​ขับ​กลับ​ทัน​ที​ ​รถ​คัน​นี้​มี​สมรรถนะ​ตอบ​สนอง​ได้​ดี​
   
“​รถ​เป็น​ทุก​อย่าง​ของ​พี่​อู​ ​บาง​ช่วง​เจอ​อะไร​เครียด​ ๆ ​จะ​นั่ง​ใน​รถ​คน​เดียว​ ​เปิด​เพลง​ ​ฟัง​ดัง​ ๆ ​บาง​ครั้ง​แต่ง​ตัว​ใน​รถ​ ​รถ​ยนต์​เป็น​พาหนะ​ที่​เรา​ภูมิ​ใจ​ ​ซื้อ​หาม​า​ด้วย​กำลัง​ทรัพย์​ของ​เรา​ ​รถ​ยนต์​ใน​ฝัน​ทุก​คน​อยาก​ได้​รถ​ยนต์​สวย​งาม​ ​ขับ​สบาย​ ​แต่​ต้อง​ดู​ตาม​กำลัง​ทรัพย์​พอ​เพียง​พอ​เหมาะ​พอ​ดี​ ​ไม่​มี​ผลก​ระ​ทบ​ต่อ​เงิน​ใน​กระเป๋า​ ​สำหรับ​พี่​อู​ขอ​รถ​ยนต์​ที่​สต​าร์ต​ติด​ ​เครื่อง​ยนต์​ไม่​จุกจิก​ ​แอ​ร์​เย็น​ ๆ ​มี​เพลง​ฟัง​ ​อยาก​แซง​ก็​แซง​ได้​ปลอด​ภัย​ก็​พอ​แล้ว​ ​ส่วน​รถ​ยนต์​ใน​ฝัน​ที่​อยาก​ได้​มา​ขับ​เป็น​รถ​ยนต์​บี​เอ​็​มด​ับเ​บิล ​ยู​ ​ซี​รี​ส์ 7 ​ชอบ​รูป​ลัก​ษณ์​ดูด​ี” ​เส​ธ​.​ไก่​อู​ขมวด​เรื่อง​ราว​รถ​ยนต์​ใน​ฝัน​ให้​ทราบ​โดย​ถ้วน​ทั่ว​กัน ​.



ขอบคุณ นสพ เดลินิวส์

เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอ 170 อะวองการ์ด พาหนะคู่ใจสาวงาม ไข่มุก-ชุติมา

พาหนะคู่ใจสาวงาม ไข่มุก-ชุติมา ดุรงค์เดช มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2009 คือ เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอ 170 อะวองการ์ด ที่ใช้มาเกือบ 2 ปี เลือกใช้เพราะถูกใจรูปร่างหน้าตาและสี ขณะที่ทะเบียนรถก็เป็นเลขวันเกิด
ส่วนที่เลือกเมอร์เซเดส-เบนซ์เพราะเป็นรถยุโรป ที่สำคัญคุณพ่อกับคุณแม่ช่วยตัดสินใจด้วย แม้ว่าขนาดของรถจะเล็กแต่ก็มีความแข็งแรง ให้ความมั่นใจได้มาก ซึ่งก่อนหน้านี้เคยไปดูรถยี่ห้ออื่น ๆ ที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกันก็ไม่ได้ถูกใจเหมือนคันนี้
ตอนที่ได้รถมาใหม่ ๆ เพื่อนยังแซวเล่น ๆ ว่าจะเข้าไปนั่งได้หรือเปล่า เพราะรถคันเล็กแต่เจ้าของตัวสูงขายาว ที่จริงแล้วภายในตัวรถกว้างขวาง โอ่อ่า จะเอื้อมหยิบจับของก็สามารถทำได้สบาย ๆ ไม่มีติดขัด สำหรับของจำเป็นที่ขาดไม่ได้ในรถต้องมีคือ แผ่นซีดีเพลงและซีดีธรรมะ อย่างเวลาที่ขับรถไปไหนมาไหนตอนเช้า ก็จะเปิดฟังซีดีธรรมะ ตรงนี้ทำให้ใจเย็นมีสติยั้งคิดพิจารณาอะไรหลายอย่างได้ดีขึ้น เช่น หากรถติดหรือใครขับรถปาดหน้าหรือบีบแตรไล่ ก็ไม่คิดจะตอบโต้กลับ ใครเขารีบก็ให้เขาแซงไปก่อน
“ปกติแล้วไข่มุกจะขับรถเอง ใช้ความเร็วสูงสุดบนทางด่วนก็แค่มากกว่า 100 กม./ชม. เล็กน้อย ซึ่งจะเกินหลักร้อยเพียงไม่กี่ครั้ง ส่วนตัวแล้วไม่ได้เป็นคนขับรถเร็ว แต่จะขับรถหลงทางเสียส่วนใหญ่ พอรู้ว่าหลงทางก็ไม่ได้จอดถามใคร จะขับไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็หาทางกลับได้เอง”
ส่วนเรื่องการดูแลรักษารถมอบให้เป็นหน้าที่ของศูนย์บริการ ครบเวลาเช็ก  ระยะปุ๊บก็เข้าศูนย์ฯ ทันที การขัดสีฉวีวรรณ ก็มีคนในบ้านทำให้ สรุปแล้วไข่มุกขับเป็นและขับปลอดภัย อย่างอื่นที่เกี่ยวกับรถล้วนแต่มีผู้ช่วย.



ขอบคุณ นส พ เดลินิวส์