วันเสาร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เอสแอล 500 สปอร์ตโรดสเตอร์


หลังจากได้ไปทดลองขับเอสแอล-คลาส ตัวใหม่ที่ประเทศสเปนเมื่อ 3 เดือนก่อน ในที่สุดบริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ได้นำเอสแอล-คลาส พวงมาลัยขวาเข้ามาเปิดตัวในบ้านเราแล้ว แถมเป็นรุ่นตกแต่งพิเศษ คือเอสแอล 500 บลูเอฟฟิเชียนซี สปอร์ต เอเอ็มจี สีเทาด้านซึ่งเป็นสีพิเศษใหม่เอสแอล-คลาสเป็นรถสปอร์ตเปิดประทุน 2 ที่นั่ง หรือโรดสเตอร์รุ่นใหญ่สุดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งตัวอักษรเอสแอลนั้นเป็นตัวย่อของคำว่า ซูเปอร์ ไลต์เวต แปลว่าน้ำหนักเบามาก

อันเป็นเอกลักษณ์การออก แบบประจำตัวมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นอกจากน้ำหนักที่เบาลงแล้วยังทำให้รถมีความปราดเปรียวเพิ่มขึ้นและลดอัตรา การสิ้นเปลืองน้ำมันลงอีกด้วย สำหรับเอสแอล 500 ใหม่มีน้ำหนัก 1,785 กก. น้อยกว่ารุ่นเดิมถึง 125 กก. ส่วน เอสแอล 350 ใหม่มีน้ำหนัก 1,685 กก. ลดลงจากรุ่นเดิมประมาณ 140 กก.


ส่วนการออกแบบรูปทรงยังคงอยู่บนพื้นฐานดั้งเดิมคือ เป็นรถสปอร์ตแบบโรดสเตอร์ที่มีกระโปรงหน้ายาว ตัวห้องโดยสารขนาดกะทัดรัดและอยู่ค่อนไปทางด้านหลัง ส่วนท้ายรถบานออกเพื่อให้ดูทรงพลังและดุดัน ที่ด้านข้างมีครีบระบายอากาศขนาดใหญ่ ชุดโคมไฟหน้าแบบไบ-ซีนอนที่มาพร้อมกับระบบส่องสว่างอัจฉริยะ โดยมีฟังก์ชั่นการ ส่องสว่างถึง 5 แบบ เพื่อปรับให้เหมาะกับลักษณะการขับขี่ในสภาพอากาศแบบต่าง ๆ และไฟเดย์ไทม์แบบแอลอีดีสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน ฝากระโปรงท้ายเปิดได้อัตโนมัติ กระจกหลังคามาพร้อมระบบปรับความโปร่งแสงของหลังคาเพียงปลายนิ้วสัมผัส และการเปิด-ปิดประทุนใช้เวลาเพียง 20 วินาที



พื้นที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวางกว่ารุ่นเดิม เส้นสายภายในที่ตกแต่งด้วยลายไม้เชื่อมยาวจากคอนโซลกลางไปถึงแผงหน้าปัดต่อ เนื่องจนไปถึงประตู พร้อมด้วยไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารที่สามารถปรับได้ถึง 3 เฉดสีคือ สีขาว สีส้ม และสีแดง เพียงเลือกเปลี่ยนสีที่พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ช่วยเพิ่มสุนทรียภาพแห่งการขับขี่ นอกจากนั้นยังมีระบบมัลติมีเดียควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ความบันเทิง ต่าง ๆ รวมถึงการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
ขุมพลังของเอสแอล 500 ใช้เครื่องยนต์เบนซินแบบวี 8 เทอร์โบคู่ ขนาดความจุ 4,663 ซีซี


 ให้กำลังสูงสุด 435 แรงม้า มีพละกำลังมากกว่ารุ่นก่อนถึง 12% พร้อมแรงบิดที่เพิ่มขึ้น 32% จาก 530 นิวตัน-เมตรเป็น 700 นิวตัน-เมตร แต่กลับกินน้ำมันน้อยลงถึง 22% ส่วนรุ่นเล็กเอสแอล 350 นั้นใช้เครื่องเบนซินแบบวี 6 ขนาด 3,498 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 306 แรงม้า กับแรงบิดสูงสุด 370 นิวตัน-เมตร กินน้ำมันเฉลี่ย 13.3-14.7 กม./ลิตร หรือประหยัดขึ้น 30% สำหรับอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในรุ่นเอสแอล 350 อยู่ที่ 5.9 วินาทีและรุ่นเอสแอล 500 อยู่ที่ 4.6 วินาที โดยทั้ง 2 รุ่นส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ พร้อมเพิ่มความประหยัดด้วยฟังก์ชั่นระบบสตาร์ต-สต๊อปอัตโนมัติเป็นอุปกรณ์ มาตรฐาน


ในด้านความปลอดภัย เอสแอลใหม่ใช้โครงสร้างตัวถังทำจากอะลูมิเนียมเนื้อแกร่งพิเศษได้รับการออก แบบมาเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการปกป้องผู้โดยสารจากการชน โดยโครงสร้างส่วนหน้าและส่วนท้ายสามารถยุบตัวเพื่อดูดซับแรงกระแทก และในกรณีรถพลิกคว่ำ โครงเหล็กที่เสากระจกบังลมหน้ารวมไปถึงโครงคุ้มกันนิรภัยหรือโรลโอเวอร์บาร์ ที่ติดตั้งอยู่ด้านหลังเบาะนั่งทั้ง 2 จุดจะช่วยปกป้องห้องโดยสาร นอกจากนั้นภายในยนตรกรรมเอสแอลใหม่นี้ยังติดตั้งเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความ ปลอดภัยให้ผู้ขับขี่ไว้อีกมากมาย สนนราคาค่าตัวก็ลดลง โดยราคาของรุ่นเอสแอล 500 อยู่ที่ 14.499 ล้านบาท ส่วนรุ่นเอสแอล 350 ทางเมอร์เซเดส-เบนซ์ยังไม่ได้ประกาศราคา แต่คาดว่าน่าจะทราบราคาในช่วงไม่เกินปลายเดือนนี้.



สัมฤกษ์ รื่นสังฤทธิ์


คลิกชมภาพต่อที่นี่.....